ร้อยไหม
วิธีการรักษาทางความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้นก็คือ ร้อยไหม โดยเฉพาะในคนที่ต้องการปรับปรุงหรือยืดผิวหน้าให้ดูเนียนขึ้น และมีความสวยงามที่เป็นธรรมชาติ ขั้นตอนนี้ใช้เส้นไหมพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่จะย่อยสลายได้ ในการสร้างเฟรมหรือโครงสร้างเพื่อยืดผิวและสร้างความกระชับให้กับผิวหน้า วิธีนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัดเพื่อปรับปรุงหน้าตา ในบทความนี้ เราจะมาให้ความรู้ รายละเอียดเกี่ยวกับการร้อยไหม วิธีการดูแลหลังจากได้รับการรักษา และข้อควรระวังที่คุณควรทราบ ดังนั้น ถ้าคุณกำลังพิจารณาวิธีการยืดผิวหน้าที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด การร้อยไหมอาจเป็นตัวเลือกที่คุณจะต้องการลอง
ร้อยไหม คืออะไร
ร้อยไหม หรือ Thread Lift เป็นวิธีการปรับปรุงหน้าที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้เส้นไหมที่ทำจากวัสดุพิเศษในการดึงหนังหน้าและหรือลดริ้วรอย มีประโยชน์ในการยกส่วนต่าง ๆ ของหน้าและลดริ้วรอย เช่น บริเวณขาหนีบ ผาก แก้ม หรือยกคาง เป็นต้น วิธีนี้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการทำการผ่าตัดใหญ่ๆ หรืออาจจะต้องการเวลาฟื้นฟูที่สั้นลง
วิธีการร้อยไหมโดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และสามารถทำได้โดยใช้เฉพาะยาชาท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับการร้อยไหมสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้โดยทันทีหรือในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงและข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การอักเสบ การแตกหักของเส้นไหม หรือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำความเข้าใจในข้อมูลและข้อเสนอแนะที่ดีที่สุดในรายการที่ทำ
การร้อยไหมจึงเป็นวิธีการที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงลักษณะหรือรูปร่างของหน้า แต่ควรพิจารณาข้อมูลและข้อเสนอแนะจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการตัดสินใจ
ร้อยไหม ช่วยอะไรบ้าง
การร้อยไหม (Thread Lift) มีคุณสมบัติที่ช่วยปรับปรุงลักษณะหน้าและบางครั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองอื่น ๆ ด้วย โดยทั่วไป การร้อยไหมสามารถช่วยในด้านต่อไปนี้ :
1. ลดริ้วรอย
- การร้อยไหมสามารถลดริ้วรอยบริเวณผาก ขาหนีบ และรอบดวงตา และรอบปาก
2. ยกและกระชับหน้า
- สามารถยกหน้าให้ดูกระชับและมีชีวิตชีวาขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หน้าผาก และคาง
3. ปรับปรุงรูปร่างหน้า
- การร้อยไหมสามารถช่วยให้หน้าดูเรียวขึ้น หรือปรับความสมดุลระหว่างส่วนต่าง ๆ ของหน้า
4. คืนความอ่อนเยาว์
- ผ่านการกระตุ้นผลิตคอลลาเจนและเอลาสตินภายใต้ผิวหนัง ทำให้หนังหน้าดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวาขึ้น
5. ลดเลือนความยื่นย่นและถุงใต้ตา
- สามารถปรับปรุงหน้าตาของถุงใต้ตาและความยื่นย่นที่เกิดขึ้นจากการแก่
6. ไม่ต้องการเวลาฟื้นฟูนาน
- เนื่องจากเป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ผู้รับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการผ่าตัด
7. ระยะเวลาและค่าใช้จ่าย
- โดยทั่วไป การร้อยไหมมีระยะเวลาและค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการผ่าตัดและวิธีการรักษาแพทย์เท่านั้นเพื่อปรับปรุงหน้า
อย่างไรก็ตาม ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้เพื่อประเมินว่าวิธีนี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่ รวมถึงความเสี่ยงและข้อเสนอแนะเฉพาะที่เกี่ยวข้อง
ข้อดีของร้อยไหม
การร้อยไหมมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงหน้าตาหรือลดอาการแก่ง่วง ดังนี้ :
1. ไม่ต้องผ่าตัด
- การร้อยไหมเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนลดลง
2. เวลาฟื้นฟูสั้น
- ผู้ที่ได้รับการร้อยไหมสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เร็ว โดยทั่วไปภายใน 1-2 วัน
3. ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- หากดำเนินการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผลลัพธ์มักจะดูเป็นธรรมชาติและไม่จัดจ้าน
4. กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
- วัสดุในเส้นไหมสามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนภายใต้ผิวหนัง ช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น
5. ระยะเวลาและค่าใช้จ่าย
- โดยทั่วไป การร้อยไหมมีระยะเวลาและค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการผ่าตัดและวิธีการรักษาทางแพทย์อื่น ๆ สำหรับปรับปรุงหน้า
6. การใช้ยาชาหรือท้องถิ่น
- สามารถดำเนินการในขณะที่ผู้ป่วยยังคงรู้สึกตัว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาระงับความรู้สึกหรือยาสลบ
7. ปรับปรุงได้หลายบริเวณ
- สามารถใช้ในการปรับปรุงบริเวณต่าง ๆ ของหน้า ทั้งหน้าผาก แก้ม คาง และขาหนีบ
8. ประโยชน์ที่ยั่งยืน
- ผลลัพธ์จากการร้อยไหมสามารถยืนยาวได้นานถึงหลายปี ขึ้นอยู่กับวัสดุของเส้นไหมและวิธีดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม การร้อยไหมก็ยังมีข้อเสียและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น หากคุณสนใจในวิธีนี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้เพื่อประเมินว่าวิธีนี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่
ร้อยไหมมีกี่แบบ
การร้อยไหม (Thread Lift) มีหลายแบบ ซึ่งแตกต่างกันทั้งในด้านวัสดุ ลักษณะ และวิธีการใช้งาน ดังนี้ :
1. ไหม PDO (Polydioxanone)
- นิยมใช้ในการรักษาทั้งบริเวณหน้าและคอ เป็นไหมที่ถูกยอมรับและมีความปลอดภัยสูง
2. ไหม PLLA (Poly L-Lactic Acid)
- ไหมนี้จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ผลลัพธ์ยังคงเหลือนานและเป็นที่นิยมในการรักษาริ้วรอยลึก
3. ไหม PCL (Polycaprolactone)
- เป็นไหมที่มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและมีผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
4. ไหมซิลิโคน
- ใช้เฉพาะในบางกรณีและมักจะไม่ถูกย่อยสลาย ใช้ในการปรับรูปร่างหน้าหรือกระชับผิว
5. ไหมที่มีตะขอหรือข้อต่อ (Barbed Threads)
- มีลักษณะเฉพาะที่ช่วยในการยึดผิวและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังได้ดี ใช้ในการยกและกระชับผิว
6. ไหมลื่น (Smooth Threads)
- ใช้สำหรับกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ไม่มีตะขอ ใช้ในการรักษาริ้วรอยที่ไม่ลึก
7. ไหมสปริง (Spring Threads)
- มีลักษณะคล้ายสปริง สามารถใช้ในการยกและกระชับผิวในบริเวณที่ต้องการ
การเลือกใช้ไหมในการร้อยขึ้นอยู่กับความต้องการ และคำแนะนำของแพทย์ สำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยและแนะนำวิธีการที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณ
เปรียบเทียบความแตกต่างการร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาความงามที่ได้รับความนิยม แต่มีหลายประเภทของเส้นไหมที่ใช้ในการร้อย ลองดูความแตกต่างระหว่างไหม PDO (Polydioxanone) และไหมก้างปลา (Cogs)
ไหม PDO
ไหม PDO (Polydioxanone)
วัสดุ : ทำจากโพลีไดออกซาโนน ซึ่งเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้
ระยะเวลาการย่อยสลาย : ประมาณ 6-12 เดือน
การยึด : ทำให้ผิวหน้ากระชับโดยอาศัยการสร้างคอลลาเจนใหม่
รูปแบบเส้นไหม : มักจะเป็นเส้นเรียบไม่มีขาปลาย
การใช้งาน : ใช้ในการยืดผิว ลดริ้วรอย และสร้างความกระชับให้กับผิวหน้า
ความเจ็บปวด : ปกติมีการใช้ยาชาหรือยาสลบท้องถิ่น เจ็บปวดน้อย
การฟื้นฟูหลังการรักษา : สั้น ประมาณ 3-7 วัน
ไหมก้างปลา
ไหมก้างปลา (Cogs)
วัสดุ : ยังทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ แต่มี”ขาปลาย” หรือ “บาร์บ” ที่ช่วยในการยึดผิว
ระยะเวลาการย่อยสลาย : ประมาณ 1-2 ปี
การยึด : มีความสามารถในการยึดและยืดผิวหน้าได้ดีกว่า เนื่องจากมีบาร์บ
รูปแบบเส้นไหม : มีขาปลายหรือบาร์บที่ส่งผลให้ยึดได้ดีขึ้น
การใช้งาน : มักจะใช้ในกรณีที่ต้องการผลลัพธ์ที่เด่นชัดและยาวนาน
ความเจ็บปวด : ความเจ็บปวดจะขึ้นอยู่กับระดับความยากและซับซ้อนของการร้อย
การฟื้นฟูหลังการรักษา : อาจจะยาวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไหม PDO
ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด
ไม่มีการร้อยไหมแบบใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เพราะความต้องการและสภาพผิวหนังของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกแบบของไหมในการร้อยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ :
- ความต้องการของผู้รับการรักษา : ต้องการยกหน้า หรือแต่งหน้า หรือลดริ้วรอย
- ระดับของริ้วรอยและความหย่อนยานของผิว : บางคนอาจต้องการไหมที่มีลักษณะเฉพาะเพื่อยกหน้า ในขณะที่บางคนอาจต้องการไหมที่กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
- อายุและสุขภาพของผิว : คนที่มีอายุมากขึ้นหรือมีผิวหนังที่หย่อนยานมากอาจต้องการวิธีการที่มีผลลัพธ์ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
- ความคาดหวังของผลลัพธ์ : บางคนอาจต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่บางคนอาจต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น
- งบประมาณ : ค่าใช้จ่ายอาจมีความแตกต่างในแต่ละแบบของไหม
โดยทั่วไปแล้ว แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการร้อยไหมจะเป็นคนประเมินสภาพผิวหนังและความต้องการของคุณ แล้วแนะนำแบบของไหมที่เหมาะสมที่สุด การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญคือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกการร้อยไหม
ร้อยไหมตรงไหนได้บ้าง
การร้อยไหมสามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย ขึ้นอยู่กับความต้องการและคำแนะนำของแพทย์ บางบริเวณที่สามารถร้อยไหมได้ ได้แก่ :
บริเวณหน้า
- แก้มและบริเวณหน้าผาก : สำหรับการยกหน้า ลดริ้วรอย และเพิ่มความเต็มให้แก้ม
- ริ้วรอยรอบดวงตา : การร้อยไหมสามารถช่วยลดริ้วรอยและกระชับผิว
- เน้นรูปหน้า : การร้อยไหมสามารถช่วยให้หน้าดูเรียวยาวขึ้น
- บริเวณริมฝีปาก : ลดริ้วรอยและกระชับผิว
- บริเวณคาง : ใช้เพื่อยกคาง หรือเปลี่ยนรูปร่างคางให้ดูดีขึ้น
บริเวณคอ
- คอ : สามารถกระชับผิวคอที่หย่อนยาน และลดริ้วรอย
บริเวณร่างกาย
- บริเวณหน้าอก : เพื่อเพิ่มความกระชับของผิวและลดริ้วรอย
- บริเวณแขน หรือขา : ใช้เพื่อกระชับผิวหนังและเพิ่มความเรียบเนียน
- บริเวณหน้าท้อง : ช่วยกระชับผิวหนังหลังการคลอด หรือหลังการลดน้ำหนัก
การร้อยไหมควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และคุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณ
ร้อยไหมอันตรายไหม
การร้อยไหมเป็นการรักษาเพื่อปรับปรุงความงามที่ได้รับความนิยมและถูกยอมรับในหมู่คนหลายคน อย่างไรก็ตาม เหมือนกับการรักษาอื่น ๆ การร้อยไหมมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ควรระวัง :
- การอักเสบ : ความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบที่จุดร้อยไหม
- รอยแผลหรือรอยแดง : บางครั้งจุดที่ร้อยไหมอาจมีรอยแผลแดง
- รู้สึกปวด : ในบางกรณี ผู้รับการรักษาอาจรู้สึกปวดหลังจากร้อยไหม
- อาการบวม : บวมในบริเวณที่ร้อยได้
- ไหมย้ายที่ : ไหมอาจเลื่อนตำแหน่งหลังจากการร้อย
- รู้สึกแน่นหรือตึง : บางครั้งผู้รับการรักษาอาจรู้สึกแน่นหรือตึงในบริเวณที่ร้อยไหม
- การเกิดภาวะฉุกเฉิน : โดยเฉพาะถ้าไหมถูกใส่เข้าไปในชั้นลึกของผิวหนังหรืออยู่ใกล้เส้นเลือดหลัก
- รอยย่นหรือผิวที่ไม่เรียบ : หากไหมไม่ถูกวางในตำแหน่งที่เหมาะสม
การป้องกันความเสี่ยงและผลข้างเคียงนี้ได้โดยการเลือกแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชี่ยวชาญในการร้อยไหม และควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการรักษาที่แพทย์ให้ การปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะทำการร้อยไหมเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยของคุณ
ผลข้างเคียงจากการ ร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาความงามที่ได้รับความนิยม แต่ก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้ :
ปวดและบวม : ในระหว่างหลังจากการรักษา ผู้รับการรักษาอาจเป็นอาการปวดและบวมในบริเวณที่ร้อย
รอยแผลหรือรอยแดง : บางคนอาจพบรอยแผลหรือรอยแดงในจุดที่ได้รับการร้อย
อาการคัน : บางคนอาจรู้สึกคันที่บริเวณที่ได้ร้อยไหม
การอักเสบและการติดเชื้อ : ถ้าไม่ดูแลหลังจากรักษาอย่างถูกต้อง หรือถ้ามีการร้อยโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจเกิดการอักเสบหรือการติดเชื้อ
การย้ายที่ของไหม : ในบางกรณี ไหมที่ใช้ในการร้อยอาจเลื่อนหรือย้ายจากตำแหน่งเดิม
ตึงหรือแน่น : ผิวหนังอาจรู้สึกตึงหรือแน่นในบริเวณที่ร้อย
ผลการรักษาที่ไม่เป็นธรรมชาติ : หากไหมไม่ถูกวางอย่างถูกต้อง ผลลัพธ์อาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
แพ้วัตถุ : ในกรณีที่น้อยมาก บางคนอาจแพ้วัตถุที่ใช้ในไหม
ข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว : อาจมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวของผิวหนังหรือการใช้ใบหน้าในช่วงสั้น ๆ หลังจากการร้อย
การร้อยไหมควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ในการดำเนินการ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลหลังรักษาเพื่อลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หลังร้อยไหม หน้าบวมกี่วัน
การบวมหลังจากการร้อยไหมเป็นสิ่งที่ปกติและอาจจะต่างกันไปในแต่ละคน โดยทั่วไป ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังจากการร้อยไหม อาทิ การบวม ปวด หรือรอยแดง มักจะหายไปภายในไม่กี่วันถึง 1-2 สัปดาห์ ในบางกรณี การบวมอาจจะลดลงอย่างช้าๆ และอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์
ในขณะที่การบวมส่วนใหญ่จะหายไปด้วยเวลา มีวิธีที่สามารถช่วยเร่งความเร็วในการลดบวม ได้แก่ :
- ยกหน้าขึ้น : การยกหน้าขึ้นสูงในช่วงหลังจากการร้อยไหมสามารถช่วยลดการบวม
- เย็น : การใช้ถุงน้ำแข็งหรือคอมเพรสเย็นสามารถช่วยลดรอยบวม
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และอาหารเค็ม : ซึ่งอาจทำให้บวมมากขึ้น
- ใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านอักเสบ : ซึ่งอาจจะได้รับจากแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดอาการบวม
อย่างไรก็ตาม ถ้าการบวมไม่ลดลง หรือมีอาการผิดปกติอื่นเกิดขึ้น คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและได้รับการรักษาที่เหมาะสม การปฏิบัติตามคำแนะนำและข้อห้ามของแพทย์เป็นสิ่งที่สำคัญในการฟื้นฟูหลังจากการร้อยไหม
ปัญหาหลังร้อยไหม
หลังจากการร้อยไหม, คุณอาจพบปัญหาหรือผลข้างเคียงบางอย่าง ดังนี้:
บวมและปวด : บริเวณที่ได้ร้อยมักจะบวมและรู้สึกปวด ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่วันถึง 1-2 สัปดาห์
รอยแผลหรือรอยแดง : บางคนอาจพบรอยแผลหรือรอยแดงในจุดที่ได้รับการร้อย
อาการคัน : บางคนอาจรู้สึกคันที่บริเวณที่ได้ร้อยไหม
การอักเสบหรือการติดเชื้อ : ในกรณีที่ร้ายแรง อาจมีการอักเสบหรือการติดเชื้อที่จุดร้อย
ไหมย้ายที่ : ไหมที่ใช้ในการร้อยอาจเลื่อนหรือย้ายจากตำแหน่งเดิม
ผิวหนังตึงหรือแน่น : ในบางกรณี ผิวหนังอาจรู้สึกตึงหรือแน่นในบริเวณที่ได้ร้อย
ผลการรักษาที่ไม่เป็นธรรมชาติ : หากไหมไม่ถูกวางอย่างถูกต้อง ผลลัพธ์อาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
อาการอื่น ๆ : เช่น ซีดหรืออาการเสียว
ความรู้สึกไม่สบายใจหรือไม่พึงพอใจกับผลลัพธ์ : บางคนอาจรู้สึกไม่พึงพอใจหรือมีความคาดหวังที่สูงจนผลลัพธ์ไม่ตรงตามที่หวัง
ถ้าคุณพบปัญหาหรือผลข้างเคียงหลังจากการร้อยไหม, คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและได้รับการรักษาที่เหมาะสม. นอกจากนี้ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการรักษาที่แพทย์ให้ เพื่อลดความเสี่ยงและเร่งการฟื้นฟู
ร้อยไหม อยู่ได้นานไหม
ความยาวนานที่ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมจะอยู่ได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงชนิดของไหมที่ใช้และรูปแบบของการรักษา โดยทั่วไป ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะรักษาไว้ได้ระหว่าง 6 ถึง 18 เดือน ในบางกรณีอาจยืดเป็น 2 ถึง 3 ปี หรือมากกว่านั้น
ไหมดิบโพลีมีลค์ (Dissolvable Threads) : ไหมนี้จะถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายภายใน 6-9 เดือน แต่ผลของการร้อยยังคงอยู่นานกว่านั้น
ไหมถาวร (Non-dissolvable Threads) : อาจจะอยู่ได้นานมากกว่านั้น แต่ต้องการดูแลรักษาเพิ่มเติม
ชนิดของผิว : ผิวที่ยืดหยุ่นและมีความชุ่มชื่นจะช่วยให้ผลลัพธ์ดูดีและยืนยงขึ้น
วิธีการดูแลหลังรักษา : การดูแลหน้าให้ถูกวิธีหลังจากการร้อยไหม จะช่วยให้ผลลัพธ์ยืนยงได้นานขึ้น
ความแน่นอนในการดำเนินชีวิต : ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อาทิ การออกกำลังกาย การนอนพัก และความเครียด สามารถมีผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์
เนื่องจากผลลัพธ์จากการร้อยไหมไม่ถาวร หลายคนเลือกที่จะทำการร้อยไหมอีกครั้งหลังจากที่ผลลัพธ์เริ่มค่อย ๆ ลดลง เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ต้องการ คุณควรปรึกษาแพทย์ของคุณเพื่อวางแผนการรักษาในระยะยาวและเลือกชนิดของไหมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ข้อควรปฏิบัติก่อนร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นกระบวนการเล็ก ๆ ในการปรับปรุงหน้าตาของคุณ แต่ก็ยังควรทำการเตรียมตัวอย่างถูกต้องเพื่อให้เห็นผลที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ดังนี้คือข้อควรปฏิบัติ :
ปรึกษาแพทย์ : คุณควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
ตรวจสุขภาพ : การตรวจสุขภาพทั่วไปเพื่อแน่ใจว่าคุณมีสภาพร่างกายที่ดีสำหรับการร้อยไหม
หลีกเลี่ยงยาหรือสารที่เจือปรางการเลือด : อาทิ แอสไพริน ยาต้านอักเสบ หรือแอลกอฮอล์ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกหรือบวม
มีการออกแบบหรือวางแผนการรักษา : คุณและแพทย์ควรออกแบบและวางแผนการรักษาให้ถูกต้อง
ดูแลผิวหน้า : การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเจือปราง เช่น รองพื้นหรือครีมที่มีสารสกัดของน้ำมัน
เตรียมใจและใจความคาดหวัง : คุณควรเตรียมใจทั้งระดับจิตใจและร่างกาย และควรตั้งความคาดหวังที่เป็นไปได้
ศึกษาข้อมูลและรีวิว : หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการและตรวจสอบรีวิวจากคนที่ได้รับการร้อยไหมแล้ว รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้
เตรียมความพร้อมทั้งสังคมและการทำงาน : หากเป็นไปได้ คุณควรจัดตารางเวลาให้สามารถพักผ่อนหลังจากการร้อยไหม
การปฏิบัติตามข้อปฏิบัติเหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดีขึ้นสำหรับการร้อยไหมและอาจจะลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณควรปรึกษา
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดร้อยไหม
การดูแลหลังจากการร้อยไหมเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การเตรียมตัวก่อนการรักษา การปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง :
หลีกเลี่ยงการนอนหงาย : หลีกเลี่ยงการนอนในท่าที่ทำให้หน้าตากับเตียงเพื่อป้องกันการบวมและการเลื่อนของไหม
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก : อย่าทำการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อไหลหรือเพิ่มความดันในหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ถึง 2 สัปดาห์
ไม่ระคายเคืองหรือยุ่งยิ่ง : หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือระคายเคืองบริเวณที่ได้รับการร้อยไหม
หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์ และยาต้านการอักเสบ : การใช้สารเหล่านี้อาจทำให้การแผลเยียวยาล่าช้า และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกหรือบวม
รักษาความสะอาด : สำคัญที่จะรักษาความสะอาดของผิวหน้า อย่าลืมล้างหน้าอย่างอ่อนโยนและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกแนะนำโดยแพทย์
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ : ข้อแนะนำเฉพาะเจาะจงจากแพทย์ของคุณอาจจะมี ดังนั้นควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ติดตามการรักษา : อาจจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสถานะและความคืบหน้าหลังจากการร้อยไหม
ระวังการแสดงอาการผิดปกติ : หากมีอาการอย่างรู้สึกเจ็บปวดมาก แผลไม่หาย หรือมีอาการอื่น ๆ ที่ไม่ปกติ ควรรีบติดต่อแพทย์
รักษาระดับความเครียด : ความเครียดสามารถมีผลกระทบต่อการฟื้นฟูของร่างกาย พยายามรักษาใจให้สงบและหยุดพักผ่อนให้เพียงพอ
ปรับอาการทาน : บางครั้ง คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนอาการทาน เช่น หลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนหรือเผ็ดที่อาจกระตุ้นหรือเสียดทานบริเวณที่ร้อยไหม
การดูแลรักษาตัวเองอย่างถูกวิธีหลังจากการร้อยไหมจะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียง ถ้ามีข้อสงสัยหรือปัญหาเกิดขึ้น ควรติดต่อแพทย์ทันที
ร้อยไหมเจ็บไหม
การร้อยไหมเป็นกระบวนการที่ส่วนใหญ่จะใช้ยาชาหรือยาปฏิชีวนะท้องถิ่นในการดำเนินการ ดังนั้น คุณจะรู้สึกไม่เจ็บปวดมากในขณะที่อยู่ในกระบวนการรักษา อย่างไรก็ตาม คุณอาจรู้สึกไม่สบายหรือมีความรู้สึกแปลก ๆ ในบริเวณที่ได้รับการร้อยไหม
หลังจากการร้อยไหม คุณอาจจะรู้สึกเจ็บปวดหรือมีความไม่สบายบ้าง บางคนรายงานว่ารู้สึกคล้าย ๆ กับการเจ็บปวดจากการออกกำลังกายหรือเหมือนมีการดึงของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ร้อยไหม ความรู้สึกเหล่านี้โดยปกติแล้วจะหายไปภายในไม่กี่วัน
คุณอาจต้องใช้ยาระงับความเจ็บปวดแบบไม่สติริดในช่วงหลังจากการร้อยไหม เพื่อควบคุมอาการเจ็บปวด แพทย์ของคุณอาจจะแนะนำยาเฉพาะหรือวิธีการดูแลอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับคุณ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ดำเนินการรักษา ประเภทของไหมที่ใช้ และความต้องการหรือความคาดหวังของคุณ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและคาดการณ์การรู้สึกเจ็บปวดหรือความไม่สบายที่อาจเกิดขึ้น
ร้อยไหม ที่ไหนดี
การเลือกสถานที่ให้บริการร้อยไหมไม่ได้เป็นเรื่องที่ควรรีบเร่งหรือตัดสินใจอย่างสะเจริญ มีหลายปัจจัยที่คุณควรพิจารณา :
คุณสมบัติของแพทย์ : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพทย์มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการร้อยไหม ใบอนุญาตและการรับรองของแพทย์ก็เป็นสิ่งที่ควรสำรวจ
รีวิวและคำแนะนำ : ค้นหารีวิวออนไลน์ ภาพก่อน-หลัง และคำแนะนำจากคนที่เคยใช้บริการที่สถานที่นั้น
การปรึกษาก่อนการรักษา : การปรึกษาข้อมูลก่อนการรักษาจะช่วยให้คุณได้รู้จักเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการ ค่าใช้จ่าย และความคาดหวังที่จะได้รับ
อุปกรณ์และเทคโนโลยี : ตรวจสอบว่าสถานที่ให้บริการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้รับการรับรองหรือไม่
สิ่งอำนวยความสะดวก : พิจารณาความสะดวกสบาย และบรรยากาศของสถานที่ บริการลูกค้า และอื่น ๆ
ค่าใช้จ่าย : ควรเปรียบเทียบราคา แต่อย่าลืมว่าราคาที่ถูกที่สุดไม่ได้หมายความว่าเป็นคุณภาพดีที่สุด
สถานที่ : ถ้าคุณต้องเดินทางไป-กลับบ่อย ๆ ควรพิจารณาดูเรื่องสถานที่ที่สะดวกในการเดินทาง
การดูแลหลังการรักษา : สำรวจดูว่าสถานที่นั้นมีบริการดูแลหลังการรักษาที่ดีหรือไม่
การเลือกสถานที่ให้บริการร้อยไหมควรพิจารณาจากหลายปัจจัย และเป็นไปได้ว่าคุณจะต้องนำข้อมูลที่คัดสรรมาเปรียบเทียบ ปรึกษากับแพทย์ และตัดสินใจอย่างรอบคอบ Class Clinic คลินิกความงาม ขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกคลินิกที่ดี มีมาตรฐาน ทีมแพทย์ผู้เขี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาหรับทุกคน
ร้อยไหม ราคาเท่าไร
ราคาของการร้อยไหมสามารถแตกต่างกันไปได้มาก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึง :
- สถานที่ให้บริการ : คลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงอาจมีราคาที่สูงกว่า
- คุณสมบัติของแพทย์ : ค่าธรรมเนียมของแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูงอาจจะแพงกว่า
- ประเภทของไหม : มีไหมหลายประเภทที่ใช้ในการร้อยไหม ราคาแต่ละประเภทก็จะไม่เหมือนกัน
- ความซับซ้อนของกระบวนการ : บางกรณีอาจต้องการการร้อยไหมหลายโซน หรือใช้เทคนิคที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ราคาเพิ่มขึ้น
- อุปกรณ์และเทคโนโลยี : การใช้อุปกรณ์ทันสมัยและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถเพิ่มราคาขึ้น
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม : อาจมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่ายา ค่าตรวจ หรือค่าพักผ่อนในโรงพยาบาล
ราคาสามารถหลากหลายตั้งแต่ไม่กี่พันถึงหลายหมื่นบาท ดังนั้นการที่จะรู้ราคาที่แน่นอน คุณจำเป็นต้องปรึกษากับแพทย์หรือคลินิกเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงถึงคุณ
หมายเหตุ : การเลือกทำการร้อยไหมควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่ควรทำข้อสรุปจากราคาเท่านั้น คุณควรปรึกษากับแพทย์เพื่อพิจารณาหลายปัจจัยในการตัดสินใจ และควรทำการวิจัยที่เพียงพอก่อนการรักษา
การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
หลังจากที่ได้รับการร้อยไหม, มีข้อห้ามหลังร้อยไหมที่คนส่วนใหญ่ต้องปฏิบัติตามในช่วงเวลาหลังจากการรักษา ซึ่งประกอบด้วย:
ห้ามแตะหรือขยับ : หลีกเลี่ยงการแตะต้องหรือขยับบริเวณที่ได้รับการร้อยไหมเพื่อป้องกันการอักเสบหรือการย้ายตำแหน่งของเส้นไหม
ห้ามออกกำลังกายหนัก : การออกกำลังกายหนักอาจส่งผลต่อบริเวณที่ได้รับการร้อยไหม ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้หยุดออกกำลังกายเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ : สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูของผิวหนังและอาจเพิ่มความเสี่ยงของการอักเสบ
ห้ามสองหรือยืดหน้า : ซึ่งอาจทำให้เส้นไหมย้ายจากตำแหน่งที่ตั้งไว้
ห้ามนอนหงายหรือนอนคว่ำ : ให้นอนในท่าที่ไม่ใช้แรงกดหรือดันที่หน้า
ห้ามทำงานหนักหรือใช้แรงเกินไป : เพื่อป้องกันการเกิดอาการอักเสบหรือบวม
ห้ามใช้คอสมีติกที่เจือจางหรือระคายเคืองผิวหนัง : แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณหยุดใช้คอสมีติกที่อาจจะทำให้ผิวหนังแห้งหรือระคายเคือง
ห้ามใช้ซาวน่าหรือไปอาบอบนวด : ความร้อนจากซาวน่าหรืออบนวดอาจจะทำให้บริเวณร้อยไหมอักเสบ
ห้ามไปอยู่ใต้แสงแดดจัดหรือใช้เตานวดร้อน : ควรใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดที่แรง
การปฏิบัติตามข้อห้ามหลังร้อยไหมจะช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการร้อยไหม หากคุณสังเกตเห็นอาการผิดปกติหลังจากการร้อยไหม ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ข้อห้ามหลังร้อยไหม
หลังจากที่ได้รับการร้อยไหม, มีข้อห้ามหลังร้อยไหมที่คนส่วนใหญ่ต้องปฏิบัติตามในช่วงเวลาหลังจากการรักษา ซึ่งประกอบด้วย:
ห้ามแตะหรือขยับ : หลีกเลี่ยงการแตะต้องหรือขยับบริเวณที่ได้รับการร้อยไหมเพื่อป้องกันการอักเสบหรือการย้ายตำแหน่งของเส้นไหม
ห้ามออกกำลังกายหนัก : การออกกำลังกายหนักอาจส่งผลต่อบริเวณที่ได้รับการร้อยไหม ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้หยุดออกกำลังกายเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ : สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูของผิวหนังและอาจเพิ่มความเสี่ยงของการอักเสบ
ห้ามสองหรือยืดหน้า : ซึ่งอาจทำให้เส้นไหมย้ายจากตำแหน่งที่ตั้งไว้
ห้ามนอนหงายหรือนอนคว่ำ : ให้นอนในท่าที่ไม่ใช้แรงกดหรือดันที่หน้า
ห้ามทำงานหนักหรือใช้แรงเกินไป : เพื่อป้องกันการเกิดอาการอักเสบหรือบวม
ห้ามใช้คอสมีติกที่เจือจางหรือระคายเคืองผิวหนัง : แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณหยุดใช้คอสมีติกที่อาจจะทำให้ผิวหนังแห้งหรือระคายเคือง
ห้ามใช้ซาวน่าหรือไปอาบอบนวด : ความร้อนจากซาวน่าหรืออบนวดอาจจะทำให้บริเวณร้อยไหมอักเสบ
ห้ามไปอยู่ใต้แสงแดดจัดหรือใช้เตานวดร้อน : ควรใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดที่แรง
การปฏิบัติตามข้อห้ามหลังร้อยไหมจะช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการร้อยไหม หากคุณสังเกตเห็นอาการผิดปกติหลังจากการร้อยไหม ควรปรึกษาแพทย์ทันที
Q&A ถาม-ตอบ การร้อยไหม
Q : การร้อยไหมคืออะไร ?
A : การร้อยไหมคือการใช้เส้นไหมพิเศษสำหรับการยืดผิวหน้าหรือปรับรูปหน้าให้ดูเนียนขึ้นและมีความกระชับ โดยปกติจะใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้
Q : การร้อยไหมจะเจ็บไหม ?
A : ปกติแล้ว การร้อยไหมจะมีการใช้ยาชา เพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวด ระดับความเจ็บปวดจะขึ้นอยู่กับคนละคน
Q : หลังจากร้อยไหม ผิวหน้าจะบวมกี่วัน ?
A : การบวมจะขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพผิวของแต่ละคน แต่ปกติจะหายใน 3-7 วัน
Q : ผลลัพธ์จากการร้อยไหมยังคงอยู่ได้นานแค่ไหน ?
A : ปกติ ผลลัพธ์จะอยู่ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับวิธีการร้อยและวัสดุที่ใช้
Q : ร้อยไหมมีข้อห้ามหลังจากทำไหม ?
A : ข้อห้ามหลังจากทำการร้อยไหมรวมถึงการหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยับตำแหน่งที่ได้รับการร้อย หลีกเลี่ยงแสงแดด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
Q : ควรเลือกที่ไหนในการร้อยไหม ?
A : เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง และมีการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
Q : ร้อยไหมมีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?
A : ควรระวังเรื่องของการแพ้วัสดุ รวมถึงข้อควรระวังเกี่ยวกับการอักเสบหรือการย้ายตำแหน่งของเส้นไหม
Q : ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด ?
A : ขึ้นอยู่กับสภาพผิว รูปร่างหน้า และความต้องการของคนที่ต้องการทำ แพทย์จะเป็นคนแนะนำว่าแบบไหนที่เหมาะสมที่สุด
Q : การดูแลตัวเองหลังจากร้อยไหมควรทำอย่างไร ?
A : ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่สัมผัสหรือขยับที่ได้รับการร้อย และอาจจะต้องใช้ยาหรือครีมตามที่แพทย์แนะนำ
Q : ร้อยไหมอันตรายไหม ?
A : ถ้าทำในสถานที่ที่มีความน่าเชื่อถือและโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ความเสี่ยงจะลดลงมาก แต่ยังคงมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการแพ้วัสดุหรือการอักเสบ
ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Neuronox หากพูดถึงการดูแลผิวและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ หนึ่งในหัตถการยอดนิยมที่หลายคนเลือกคือการฉีดโบท็อกซ์ ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ Neuronox
ราคาโบท็อกซ์ Neuronox ปี 2025 หากพูดถึงการดูแลผิวและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ หนึ่งในหัตถการยอดนิยมที่หลายคนเลือกคือการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ความงามและผู้ใช้จำนวนมากก็คือ
ส่วนผสมในดริปผิว ที่ช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก ความนิยมของการดริปผิวไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเป็นเพียง “แฟชั่น” หรือกระแสที่มาแล้วก็ไป แต่เกิดจากผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง