เลเซอร์
Home » เลเซอร์

เลเซอร์

เทคโนโลยี เลเซอร์ ในวงการความงามมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เลเซอร์เป็นหนึ่งในการรักษาทางด้านความงามที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ณ คลินิกความงาม Class Clinic คลินิกความงาม ขอนแก่น เรามุ่งมั่นในการนำเสนอบริการเลเซอร์ที่ปลอดภัย มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย บนพื้นฐานของความรู้และประสบการณ์ยาวนานของทีมแพทย์มืออาชีพ เลเซอร์ความงามหรือ “Cosmetic Laser Treatments” คือเทคโนโลยีที่ใช้เลเซอร์ในการแก้ไขหรือปรับปรุงลักษณะทางด้านความงาม ไม่ว่าจะเป็นการลดริ้วรอย, ลบรอยสิว, หรือแม้แต่การขจัดขนไม่ต้องการ วิธีนี้เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีทันที โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

สารบัญ Laser เลเซอร์

เลเซอร์ความงาม คืออะไร

เลเซอร์ความงาม คืออะไร ? รู้จักเลเซอร์และคำแนะนำก่อนการเลือกใช้ การใช้เลเซอร์ (Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation) ในการทำความสะอาด ปรับปรุง หรือแก้ไขผิวหนังและลักษณะทางด้านความงาม การรักษาด้วยเลเซอร์มีความหลากหลาย โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาหรือประเด็นที่ผู้รับการรักษาต้องการจะแก้ไข รวมถึงประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษา

ประเภทของเลเซอร์ความงาม

  1. เลเซอร์เอเบลทีฟ (Ablative Lasers) : ใช้ในการเอาออกหรือทำลายชั้นผิวหนังภายนอก ปกติใช้ในการลบรอยสิว ริ้วรอย และย่นผิว
  2. เลเซอร์ไม่เอเบลทีฟ (Non-Ablative Lasers) : ไม่ทำลายผิวหนังภายนอก แต่กระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้น ใช้ในการรักษาริ้วรอยละเอียดและปัญหาผิวหนังอื่น ๆ
  3. เลเซอร์ไดโอ้ด (Diode Lasers) : ใช้ในการขจัดขน และในบางกรณี ใช้ในการรักษาสิว
  4. เลเซอร์ Q-Switched : ใช้ในการลบรอยสัก และแผลเป็น

การใช้งาน

เลเซอร์ความงามสามารถใช้งานในหลายสถานการณ์ เช่น

  • ลดหรือลบริ้วรอย
  • ลบรอยสิว และแผลเป็นจากสิว
  • ปรับปรุงผิวหนังให้กระจ่างใส
  • ขจัดขน
  • ปรับปรุงรูขุมขนให้เล็กลง
  • ลบหรือคลายรอยสัก
  • รักษาฝ้า กระ และปัญหาผิวหนังอื่น ๆ

การรักษาด้วยเลเซอร์ความงามควรจะทำโดยผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ เนื่องจากถ้าใช้งานไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ผลข้างเคียง เช่น การเกิดแผลไหม้ การเปลี่ยนสีของผิวหนัง หรือแผลเป็น

การตัดสินใจ

ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการ เป็นความจำเป็นที่คุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยสภาพและความต้องการของผิวหนัง รวมถึงความเหมาะสมของการรักษาด้วยเลเซอร์ในกรณีของคุณ

เลเซอร์หน้า

การใช้เลเซอร์ในการดูแลผิวหน้าเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการความงามและการแพทย์เทคนิคเพื่อให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ขาวใส หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวหน้า อาทิ รอยริ้วรอย รอยแผลเป็น ความไม่สม่ำเสมอของสีผิว และสิว

ประเภทของเลเซอร์หน้า :

  1. Fractional Laser : ใช้สำหรับแก้ไขรอยแผลเป็น ริ้วรอย และปรับปรุงสภาพผิว
  2. CO2 Laser : ใช้ในการป้องกันและแก้ไขริ้วรอย รอยสิว และปัญหาผิวหนังอื่น ๆ
  3. Erbium Laser : ใช้สำหรับการนำชั้นผิวหนังออก ช่วยในการลดรอยแผลเป็นและริ้วรอย
  4. Pulse-Dye Laser : ใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องของหลอดเลือดใต้ผิวหนัง อาทิ จุดแดงหรือรอยแผลเป็นที่มีสีแดง

ข้อดี :

  1. การฟื้นฟูของผิวหนังเร็วและมีประสิทธิภาพ
  2. สามารถปรับปรุงสภาพผิวหนังในหลายประเด็นในครั้งเดียว
  3. มีอาการแสบร้อนหรือคันน้อยหลังการรักษา

ข้อควรระวัง :

  1. ค่าใช้จ่ายสูง
  2. ต้องมีการดูแลหลังการรักษาอย่างถูกต้อง
  3. ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการเตรียมตัวและดูแลหลังการรักษา

การทำเลเซอร์หน้าควรได้รับการวินิจฉัยและแนะนำจากแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์เชี่ยวชาญในความงาม มีความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น ควรรับคำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนทำการรักษา

เลเซอร์หน้าใส ช่วยอะไรบ้าง

การใช้เลเซอร์เพื่อปรับปรุงหน้าใส มีหลายประเภท และแต่ละประเภทมีความเหมาะสมและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน หลัก ๆ จะแบ่งได้ดังนี้ :

1. เลเซอร์เอเบลทีฟ (Ablative Lasers)

  • CO2 Laser : ใช้สำหรับการลบชั้นผิวหนังที่เสียหาย ลดริ้วรอย และแผลเป็น
  • Erbium Laser : ใช้สำหรับลบชั้นผิวหนังที่เสียหายและลดริ้วรอย แต่ทำให้เกิดการบวมและแดงน้อยกว่า CO2 Laser

2. เลเซอร์ไม่เอเบลทีฟ (Non-ablative Lasers)

  • Fraxel Laser : ใช้สำหรับการเจาะรูขุมขนเล็ก ๆ ทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนและเอลาสตินใหม่
  • Nd:YAG Laser : ใช้สำหรับการรักษาฝ้า กระ และรอยสิว

3. ยูวีเลเซอร์ (Pulsed-Dye Lasers)

  • ใช้สำหรับรักษารอยแดง แผลเป็นจากสิว และบางครั้งใช้ในการรักษาหลอดเลือดขยาย

4. Q-Switched Lasers

  • ใช้สำหรับลบรอยสัก และบางกรณีใช้สำหรับรักษาฝ้าและกระ

5. Picosecond Lasers

  • ใช้ในการลบรอยสัก ฝ้า กระ และการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

6. Alexandrite Lasers

  • มักใช้ในการขจัดขนและในบางกรณีสามารถใช้ในการรักษาฝ้า กระ และรอยสัก

แต่ละประเภทของเลเซอร์มีคุณสมบัติและข้อควรระวังที่แตกต่างกัน การเลือกใช้เลเซอร์ควรพิจารณาจากคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านดังกล่าว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงในระดับที่ต่ำที่สุด

เลเซอร์หน้าใส กี่ครั้งเห็นผล

การทำเลเซอร์หน้าใสไม่ได้มีจำนวนครั้งที่เจาะจงที่สามารถระบุได้ว่ากี่ครั้งจึงจะเห็นผล เพราะผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยดังนี้ :

  1. ประเภทของเลเซอร์ : บางเลเซอร์อาจให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้เร็ว ในขณะที่บางประเภทอาจต้องการหลายครั้ง
  2. ปัญหาผิวหนังที่ต้องการรักษา : ตัวอย่างเช่น ฝ้าที่มีลึกอาจต้องการการรักษามากกว่าฝ้าที่ไม่ลึก
  3. ความเข้มข้นและการตั้งค่าของเลเซอร์ : การรักษาที่ใช้เลเซอร์ในความเข้มข้นที่สูงอาจให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้เร็วกว่าการใช้เลเซอร์ที่ความเข้มข้นต่ำ
  4. การดูแลหลังการรักษา : การดูแลผิวหลังจากการทำเลเซอร์มีผลต่อความเร็วในการฟื้นฟูและผลลัพธ์ที่ได้
  5. ธรรมชาติของผิวของแต่ละคน : บางคนอาจเห็นผลได้เร็วขึ้น ในขณะที่บางคนอาจต้องการเวลามากกว่า

โดยทั่วไป หลังจากการทำเลเซอร์หนึ่งครั้ง ผู้ได้รับการรักษาจะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ก็อาจต้องทำการรักษาหลายครั้ง (เช่น 3-6 ครั้งหรือมากกว่า) ตามความต้องการและคำแนะนำของแพทย์เพื่อได้รับผลลัพธ์ที่คาดหวัง

เพื่อความแน่ใจ ควรปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางหรือผู้เชี่ยวชาญในด้านเลเซอร์หน้าใสเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับจำนวนครั้งในการรักษาและการดูแลผิวหลังการรักษา

ข้อดีของการเลเซอร์หน้า

การทำเลเซอร์หน้านำมาซึ่งข้อดีหลายประการในการดูแลและปรับปรุงสภาพผิวหน้า ดังนี้ :

  1. การปรับปรุงโครงสร้างผิว : เลเซอร์สามารถกระตุ้นผิวให้สร้างคอลลาเจนและเอลาสตินใหม่ ทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้น และลดริ้วรอย
  2. การลดรอยแผลเป็นจากสิว : มีการใช้เลเซอร์ในการทำให้รอยแผลเป็นแฟลตลงและลดการตะปุ่มตะปั่มของผิว
  3. การลดฝ้า กระ : เลเซอร์มีความสามารถในการลดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น
  4. การลดรอยแดงและหลอดเลือดขยาย : เลเซอร์ประเภทบางประเภทสามารถรักษาหลอดเลือดขยายที่อยู่เต็มในผิวหน้า
  5. การลบรอยสัก : หลายประเภทของเลเซอร์สามารถลบรอยสักออกจากผิวหน้า
  6. การปรับเท็กซ์เจอร์ของผิว : ช่วยในการลดรูขุมขน และปรับให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  7. การขจัดขน : เลเซอร์สามารถใช้ในการลดขนหน้าและทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  8. การต่อยอดการรักษา : การใช้เลเซอร์ในการรักษาสามารถเสริมฤทธิ์กับการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ

แม้ว่าการทำเลเซอร์หน้าจะมีข้อดีต่าง ๆ ดังกล่าว แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียง ดังนั้น ควรปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีการและข้อควรระวังก่อนทำการรักษาด้วยเลเซอร์

ข้อเสียของการเลเซอร์หน้า

การทำเลเซอร์หน้ามีข้อเสียและความเสี่ยงที่ควรทราบ ดังนี้ :

1. ค่าใช้จ่ายสูง

การทำเลเซอร์หน้ามักจะมีราคาสูง และอาจต้องทำหลายครั้งตามคำแนะนำของแพทย์

2. อาการไม่สบายหลังการรักษา

เช่น การแดง, บวม, ร้อน, หรือคัน ซึ่งมักจะฟื้นฟูได้ภายในเวลาสั้น ๆ

3. รอยไหม้และสิวเสี้ยน

ถ้าการใช้เลเซอร์ไม่ถูกต้อง อาจเกิดการรอยไหม้หรือสิวเสี้ยนบนผิวหนัง

4. การปลอดสีของผิวหนัง

อาจเกิดการเปลี่ยนสีของผิวหนัง ทั้งการดำขึ้นหรือขาวขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจไม่สามารถกลับไปสู่สภาพเดิมได้

5. การติดเชื้อ

ถ้าการดูแลหลังจากการรักษาไม่ดี อาจเกิดการติดเชื้อบนผิวหนัง

6. ผลลัพธ์อาจไม่เป็นดังที่คาดหวัง

ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาเลเซอร์หน้าอาจไม่ถาวร 100% และอาจต้องทำการรักษาซ้ำหลายครั้ง

7. ความเสี่ยงในการรักษา

ถ้าไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญ มีความเสี่ยงในการทำให้สภาพผิวหนังแย่ลง

8. การเตรียมตัวและดูแลหลังรักษา

ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมป้องกันแสงแดด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

การทำเลเซอร์หน้าเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญในการเลือกแพทย์และสถานที่รักษา นอกจากนี้ยังควรรับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อวิเคราะห์ว่าการรักษานั้นเหมาะสมกับคุณหรือไม่

เลเซอร์หน้าใส แบบไหนดี

การเลือกเลเซอร์หน้าใสที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัญหาที่ต้องการแก้ไข สภาพผิวของคนรับการรักษา และความต้องการเฉพาะของคนนั้น ๆ แต่ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเกี่ยวกับทางเลือกที่เหมาะสม แต่โดยทั่วไป:

  1. เลเซอร์ CO2 และ Erbium : ถ้าคุณต้องการรักษาริ้วรอยลึก แผลเป็นจากสิว หรือมีปัญหาด้านการหมองคล้ำของผิว ลักษณะของเลเซอร์เอเบลทีฟนี้เป็นที่ยอมรับ

  2. เลเซอร์ Fraxel : สำหรับผิวที่มีปัญหาน้อย หรือต้องการการฟื้นฟูผิวแบบไม่ต้องพักฟื้นนาน คือเลือกเลเซอร์ไม่เอเบลทีฟ

  3. Nd:YAG Laser : ถ้ามีปัญหาฝ้าหรือกระ ประเภทนี้เป็นตัวเลือกที่ดี

  4. Pulsed-Dye Lasers : สำหรับผิวที่มีปัญหาเรื่องหลอดเลือดขยายหรือรอยแดง

  5. Q-Switched Lasers และ Picosecond Lasers : ถ้าเป็นเรื่องของรอยสักหรือเลือดจัดที่ยากที่จะลบ ประเภทนี้มักจะถูกเลือกใช้

  6. Alexandrite Lasers : ถ้าคุณต้องการขจัดขนบนหน้า ประเภทนี้เป็นตัวเลือกที่ดี

แต่ละประเภทของเลเซอร์มีข้อควรระวังและระยะเวลาในการฟื้นฟูที่แตกต่างกัน การเลือกประเภทของเลเซอร์ควรตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดผลข้างเคียงในระดับที่ต่ำที่สุด

เลเซอร์ขน

การใช้เลเซอร์ในการขจัดขนเป็นวิธีการที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและนิยมในปัจจุบัน การขจัดขนด้วยเลเซอร์ทำงานโดยใช้แสงเลเซอร์เป็นตัวทำละลายเม็ดสีและโครงสร้างของขน ทำให้ขนหยุดการเจริญเติบโต วิธีนี้มีข้อดีและข้อควรระวังดังนี้ :

ข้อดี

  1. ความถาวร : การขจัดขนด้วยเลเซอร์สามารถทำให้ขนหายไปในระยะยาวหรือถาวร
  2. ความรวดเร็ว : วิธีนี้สามารถขจัดขนในพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ในเวลาที่สั้น
  3. ความแม่นยำ : เลเซอร์สามารถเลือกเฉพาะขนที่ต้องการขจัด โดยไม่กระทบต่อผิวหนัง
  4. ความปลอดภัย : ถ้าดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญและในสถานที่ที่ถูกต้อง วิธีนี้ถือว่าปลอดภัย

ข้อควรระวัง

  1. ราคา : วิธีนี้อาจจะสูงราคา โดยเฉพาะถ้าต้องการขจัดขนในพื้นที่ขนาดใหญ่หรือทำหลายครั้ง
  2. ความเจ็บปวด : บางคนอาจรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายในระหว่างและหลังจากการรักษา
  3. ผลข้างเคียง : อาจมีการระคายเคือง แดง หรือผิวหนังเปลี่ยนสี โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวหนังสีเข้ม
  4. จำนวนการรักษา : อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลที่ต้องการ

โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อตรวจสอบว่าคุณเป็นผู้ที่เหมาะสมสำหรับการขจัดขนด้วยเลเซอร์หรือไม่ และเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณ

เลเซอร์กำจัดขน บริเวณไหนได้บ้าง

เลเซอร์กำจัดขน บริเวณไหนได้บ้าง

การใช้เลเซอร์ในการกำจัดขนสามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการและคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ บริเวณที่สามารถขจัดขนด้วยเลเซอร์มักจะครอบคลุม :

  1. หน้า : เช่น หนวด, แก้ม, คิ้ว, และบริเวณริมฝีปาก
  2. แขน : รวมถึงข้อมือและมือ
  3. อกและหลัง : โดยเฉพาะสำหรับผู้ชายที่มีขนหนา
  4. รักแร้ : ขนบริเวณรักแร้หรือ “ขนหลัง” สำหรับผู้หญิง
  5. ขา : รวมถึงข้อเท้าและเท้า
  6. บริเวณรักษาท้อง : สำหรับผู้ที่ต้องการความสะอาดและเรียบร้อย
  7. บริเวณขาอวัยวะเพศ : อาจจำกัดเฉพาะบางบริเวณหรือขจัดขนทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความต้องการ
  8. อื่น ๆ : บางครั้งการขจัดขนด้วยเลเซอร์ยังสามารถใช้สำหรับบริเวณอื่น ๆ ที่เฉพาะเจาะจง เช่น นิ้ว, หู, หรือหน้าผาก

เลเซอร์ขน ช่วยอะไรบ้าง

การใช้เลเซอร์ในการกำจัดขนมีประโยชน์ในหลายด้าน นอกจากจะช่วยลดหรือหยุดการเจริญเติบโตของขนแล้ว ยังมีข้อดีอื่น ๆ ดังนี้ :

1. ความสะอาดและเรียบร้อย

การขจัดขนด้วยเลเซอร์จะช่วยให้ผิวหนังดูเรียบร้อยและสะอาด ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการติดเชื้อในบางกรณี

2. การลดขนหนา

บางคนอาจมีขนที่หนาและค่อนข้างทรุดโทรม การขจัดขนด้วยเลเซอร์สามารถทำให้ขนบางลงและดูเรียบร้อยขึ้น

3. ป้องกันขนเจริญเติบโตที่ไม่พึงประสงค์

ในบางกรณี ขนอาจเจริญเติบโตในบริเวณที่ไม่ต้องการ การขจัดขนด้วยเลเซอร์จะช่วยในการหยุดหรือลดขนในบริเวณเหล่านั้น

4. ป้องกันปัญหาขนขึ้นเนื้อ

การขจัดขนด้วยเลเซอร์ยังสามารถช่วยป้องกันปัญหาขนขึ้นเนื้อหรือขนตัวในผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุของการอักเสบและรอยแผล

5. การลดความไม่สะดวก

หลายคนพบว่าการโกนขนหรือใช้ครีมขจัดขนอาจสร้างความไม่สะดวกและต้องทำบ่อย ๆ การขจัดขนด้วยเลเซอร์จึงเป็นวิธีที่สะดวกและเป็นการถาวรหรือระยะยาว

6. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ถึงแม้ว่าการรักษาด้วยเลเซอร์จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น แต่มันสามารถลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการดูแลรักษาขนในระยะยาว

เลเซอร์ขน มีกี่แบบ

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์มีหลายแบบหรือเทคนิค แต่ละแบบมีคุณสมบัติและเป้าหมายที่แตกต่างกัน นี่คือรายละเอียดของแบบที่พบบ่อย :

1. Alexandrite Laser

เลเซอร์นี้มีความสามารถในการกำจัดขนอย่างรวดเร็วและเหมาะสำหรับผิวหนังที่สีขาวถึงสีออลิฟ

2. Diode Laser

เลเซอร์ชนิดนี้เหมาะสำหรับผิวหนังทั้งที่สีขาวและสีแทน มักใช้ในการกำจัดขนบนหน้าอก แขน และขา

3. Nd:YAG Laser

นี้เป็นเลเซอร์ที่เหมาะสำหรับผิวหนังสีเข้มและมีสัดส่วนของเมลานินที่สูง มักใช้ในการกำจัดขนที่หนักและหนา

4. Ruby Laser

เลเซอร์นี้เป็นอันดับแรกที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในการกำจัดขน มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผิวหนังสีขาวและขนสีบลอนด์หรือแดง

5. Intense Pulsed Light (IPL)

ถึงแม้จะไม่ใช่เลเซอร์ในความหมายทางเทคนิค แต่ IPL ถูกใช้ในการกำจัดขนในลักษณะที่คล้ายคลึง มักเหมาะสำหรับผิวหนังที่ไม่เข้มสีมาก

เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล

จำนวนครั้งที่ต้องการในการรักษาเลเซอร์กำจัดขนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึง :

  • ลักษณะของขนและผิวหนัง : ขนที่หนาและมืดจะต้องการรักษามากกว่าขนที่บางและอ่อน
  • บริเวณที่ต้องการกำจัด : บางบริเวณอาจต้องการรักษามากกว่าบริเวณอื่น ๆ
  • เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้ : แต่ละชนิดของเลเซอร์มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน

โดยทั่วไป ผู้รับการรักษามักจะเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังจากการรักษา 3-6 ครั้ง ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของขนในแต่ละคน ซึ่งมีระยะเวลาแตกต่างกัน การรักษาเลเซอร์จัดการกับขนที่อยู่ในระยะการเจริญเติบโต ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำการรักษาหลายครั้งในระยะเวลาที่แตกต่างกัน เพื่อจัดการกับขนที่อยู่ในระยะการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน

หลังจากการรักษาเรียบร้อย ขนในบริเวณที่รักษาจะเริ่มบางลงและสีจะอ่อนลง หรือในบางกรณี ขนอาจหยุดเจริญเติบโตอย่างถาวร

ข้อดีของการเลเซอร์ขน

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์มีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ ในการขจัดขน ดังนี้ :

1. ความถาวร

หลังจากการรักษาครบวงจร ขนส่วนใหญ่จะไม่เจริญเติบโตอีก หรือถ้าเจริญเติบโตก็จะบางและอ่อนลง

2. ความรวดเร็ว

เลเซอร์สามารถทำงานบนพื้นที่ขนาดใหญ่ของผิวหนังได้ในเวลาอันสั้น ทำให้การรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว

3. ความแม่นยำ

เลเซอร์สามารถเป้าหมายไปที่ขนโดยไม่กระทบต่อผิวหนัง ทำให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัย

4. ลดการอักเสบและขนหนู

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์สามารถช่วยลดความเสี่ยงของขนหนูและการอักเสบที่อาจเกิดจากวิธีการขจัดขนอื่น ๆ

5. ความปลอดภัย

เมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญ การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่ำ

6. ไม่รบกวนชีวิตประจำวัน

เวลาที่ต้องการในการฟื้นฟูหลังจากการรักษาเป็นอย่างน้อย เพื่อนำคุณกลับไปสู่ชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็ว

7. ค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ถึงแม้ว่าการรักษาอาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูง แต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการขจัดขนโดยวิธีอื่น ๆ ในระยะยาว การรักษาด้วยเลเซอร์อาจเป็นทางเลือกที่ประหยัดทั้งเวลาและเงิน

ข้อเสียของการเลเซอร์ขน

การใช้เลเซอร์ในการกำจัดขนมีข้อเสียและความเสี่ยงที่ควรพิจารณา ดังนี้ :

1. ค่าใช้จ่ายสูง : การเลเซอร์ขนส่วนใหญ่ต้องการหลายครั้งของการรักษา ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

2. อาการร้อนและแสบ : ในระหว่างและหลังจากการรักษา ผิวหนังในบริเวณที่รักษาจะร้อนและอาจมีอาการแสบ

3. การแดงและบวม : หลังจากการรักษา บริเวณที่ได้รับเลเซอร์อาจมีอาการแดงและบวมในระยะสั้น

4. การเกิดรอยไหม้ : ถ้าการใช้เลเซอร์ไม่ถูกต้องหรือมีความผิดพลาด อาจเกิดการรอยไหม้บนผิวหนัง

5. การเปลี่ยนสีของผิว : การรักษาด้วยเลเซอร์อาจส่งผลให้ผิวหนังในบริเวณที่รักษาเปลี่ยนสี เช่น ผิวหางเข้มขึ้นหรือขาวขึ้น

6. ความเสี่ยงในการติดเชื้อ : ถ้าไม่ดูแลอย่างถูกต้องหลังจากการรักษา อาจเกิดการติดเชื้อ

7. ผลไม่ถาวร 100% : การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ไม่ได้ถาวร 100% และอาจต้องทำการรักษาซ้ำหลายครั้ง

8. ไม่เหมาะสมสำหรับทุกคน : การรักษาเลเซอร์ขนอาจไม่เหมาะสมสำหรับบุคคลที่มีผิวหนังอ่อนแอ หรือผิวหนังที่มีสีเข้ม

เลเซอร์ขน เว้นกี่วัน

ระยะเวลาที่ต้องเว้นระหว่างการทำเลเซอร์กำจัดขนไม่เหมือนกันในทุกคน และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ :

  1. ประเภทของเลเซอร์ : แต่ละเทคโนโลยีเลเซอร์มีคุณสมบัติและการฟื้นฟูที่แตกต่างกัน
  2. สภาพผิว : ผิวที่บอบบางหรือมีปัญหาทางผิวหนังอาจต้องการระยะเวลาในการฟื้นฟูที่ยาวขึ้น
  3. บริเวณที่รักษา : บางบริเวณอาจต้องการระยะเวลาฟื้นฟูที่ยาวขึ้น เช่น ใบหน้า ในขณะที่บริเวณอื่น ๆ อาจฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
  4. แนะนำของแพทย์ : ระยะเวลาที่แนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการเว้นระหว่างการรักษา

โดยทั่วไป การรักษาเลเซอร์กำจัดขนมักจะต้องเว้นระยะเวลาอยู่ระหว่าง 4-8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ในการทำเลเซอร์หลายครั้ง คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่คุณไว้วางใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

เลเซอร์บราซิลเลี่ยน

เลเซอร์บราซิลเลี่ยน

เลเซอร์บราซิลเลี่ยน หรือ Brazilian Laser Hair Removal คือ การกำจัดขนในบริเวณจิ๋มท่าด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการลดขนหรือกำจัดขนอย่างถาวรในบริเวณนั้น ข้อดีของวิธีนี้คือการทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยนสามารถให้ผลลัพธ์ที่ถาวรหรือระยะยาว คือ ขนที่ถูกกำจัดจะยากที่จะเจริญเติบโตกลับมา หรือถ้ามีก็จะบางและอ่อนแรงลง

ข้อควรระวัง :

  1. ความเจ็บปวด : บางคนอาจรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายในระหว่างและหลังการรักษา
  2. ความเสี่ยงของการอักเสบ : หลังการรักษา ผิวหนังอาจแดงหรือบวมเล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไปภายในไม่กี่วัน
  3. ค่าใช้จ่าย : วิธีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง เนื่องจากต้องการหลายครั้งของการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเตรียมตัว :

  1. หลีกเลี่ยงการแสดงตัวแดดหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวหนังมีปัญหา
  2. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการเตรียมผิวหนังก่อนการรักษา

ระยะเวลา :

การรักษาบ่อยครั้งแต่ละครั้ง โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับแต่ละคน และขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ โดยทั่วไปอาจต้องเว้นระยะเวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ หรือตามที่แพทย์แนะนำ

เลเซอร์ขนบิกินี่

เลเซอร์ขนบิกินี่

การใช้เลเซอร์ในการกำจัดขนบิกินี่หรือขนในบริเวณชายหาด เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมสูงในยุคปัจจุบัน หมายถึงการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นเพื่อทำลายหนวดขน และยับยั้งการเจริญเติบโตของขนใหม่ โดยมีข้อดีและข้อควรระวังดังนี้ :

ข้อดี :

  1. ผลลัพธ์ที่ดีและถาวร : ขนจะยากที่จะเจริญเติบโตอีกหลังจากการรักษา
  2. สะดวกและปลอดภัย : การรักษาไม่ใช่เวลานาน และมีความปลอดภัยถ้าดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ
  3. ลดปัญหาขนหนุ่ม : ขนที่เจริญเติบโตหลังจากการรักษามักจะบางและอ่อนแรง ลดปัญหาขนหนุ่ม

ข้อควรระวัง :

  1. ความเจ็บปวด : บางคนอาจรู้สึกว่ามีความเจ็บปวดเล็กน้อยในระหว่างการรักษา
  2. ค่าใช้จ่าย : การรักษาโดยใช้เลเซอร์อาจมีราคาที่สูง และอาจจำเป็นต้องทำหลายครั้ง
  3. ผลข้างเคียง : อาจมีผลข้างเคียงเช่น การแดง การบวม หรือในกรณีที่ยากเกิดขึ้น เช่น การเกิดฝ้าหรือสิว

การเตรียมตัว :

  • หลีกเลี่ยงการแสดงตัวแดดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวหนังมีปัญหา
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการเตรียมผิวหนังก่อนการรักษา

เลเซอร์ขนรักแร้

การใช้เลเซอร์กำจัดขนในบริเวณรักแร้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการกำจัดขนอย่างถาวร หรือให้ขนบางลงและอ่อนแรงกว่าเดิม การรักษาโดยใช้เลเซอร์ในบริเวณนี้มีข้อดีและข้อควรระวังดังนี้ :

ข้อดี :

  1. ถาวรหรือระยะยาว : ขนที่ถูกกำจัดด้วยเลเซอร์มักจะยากที่จะเจริญเติบโตกลับมา
  2. ลดปัญหาขนหนุ่ม : ขนที่เจริญเติบโตกลับมาจะบางและอ่อนแรงลง ลดความเสี่ยงของขนหนุ่ม
  3. เร็วและสะดวก : การรักษาบ่อนครั้งไม่ใช่เวลานาน

ข้อควรระวัง :

  1. ความเจ็บปวด : บางคนอาจรู้สึกว่ามีความเจ็บปวดในระหว่างการรักษา
  2. ความเสี่ยงของการอักเสบและผลข้างเคียง : อาจมีอาการแดงหรือบวมในบริเวณที่รักษา ซึ่งมักจะหายไปภายในไม่กี่วัน
  3. ค่าใช้จ่าย : การรักษาด้วยเลเซอร์อาจมีราคาสูง และต้องทำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

การเตรียมตัว :

  • หลีกเลี่ยงการแสดงตัวแดดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวหนังมีปัญหา
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการเตรียมผิวหนังก่อนการรักษา

รอยไหม้จากเลเซอร์ขน

รอยไหม้จากการทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นอาการผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ในกรณีที่การดำเนินการไม่ถูกต้องหรือมีปัจจัยความเสี่ยงอื่น ๆ ซึ่งอาจรวมถึง :

  • การใช้เลเซอร์ที่ไม่เหมาะสมกับสีผิวหรือสีขนของคนที่รับการรักษา
  • การปรับความเข้มข้นของเลเซอร์ที่สูงเกินไป
  • ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนในการเตรียมผิวหนังก่อนและหลังการรักษา
  • การทำโดยผู้ไม่มีความเชี่ยวชาญ

การรักษา :

  1. คำปรึกษาแพทย์ : หากเกิดรอยไหม้ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อดำเนินการรักษา
  2. ผลิตภัณฑ์ลดอาการร้อน/ไหม้ : ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอาทิตย์อโลเวร่าหรือครีมที่มีสเตียรอยด์อาจถูกแนะนำ
  3. การใช้เย็น : การใช้น้ำแข็งหรือถุงเย็นช่วยลดอาการบวมและแดง

การป้องกัน :

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : หาข้อมูลและทำการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในการรักษาผิวหนังและเลเซอร์ก่อนดำเนินการ
  2. การทดสอบผิว : ทำการทดสอบผิวหนังก่อนรับการรักษาเพื่อเห็นว่าการรักษาจะทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือไม่
  3. ปฏิบัติตามคำแนะนำ : ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการเตรียมผิวหนังและดูแลหลังการรักษา

เลเซอร์รอยแผลเป็น

การใช้เลเซอร์ในการรักษารอยแผลเป็นเป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงในการให้ผิวหนังเรียบเนียนและปรับปรุงสภาพรอยแผลเป็น หลักการทำงานของเลเซอร์คือการใช้แสงเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูของผิวหนัง ซึ่งสามารถต่อยอดให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและเอลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังดูเรียบเนียนขึ้น

ประเภทของเลเซอร์สำหรับรักษารอยแผลเป็น :

  1. Fractional Laser : เป็นประเภทของเลเซอร์ที่เป็นที่นิยมสำหรับการรักษารอยแผลเป็นจากสิว หรือจากการผ่าตัด
  2. CO2 Laser : ใช้ในการลบชั้นผิวหนังบนอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพในการรักษารอยแผลเป็นที่เป็นรูและสิว
  3. Pulse-Dye Laser : ใช้สำหรับรักษารอยแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นคล้ำหรือแดง

ข้อดี :

  1. สามารถปรับปรุงสภาพผิวหนังได้เป็นอย่างดี
  2. การฟื้นฟูเร็ว และมีการแทรกซื้อของคอลลาเจน
  3. บางครั้งการรักษาแค่ครั้งเดียวก็เห็นผลอย่างชัดเจน

ข้อควรระวัง :

  1. ค่าใช้จ่ายสูง
  2. อาจเกิดผลข้างเคียงอย่างเช่น การแดง การบวม หรือในกรณีที่ร้ายแรง การเกิดรอยไหม้
  3. ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลหลังการรักษา

ผลข้างเคียง จากการทำเลเซอร์

การทำเลเซอร์ความงามมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ ระดับความรุนแรงของการรักษา และความเชี่ยวชาญของผู้ให้การรักษา ดังนี้

ผลข้างเคียงทั่วไป

  1. แดงและบวม: ในหลังการทำเลเซอร์ ผิวหนังจะบวมและแดง ซึ่งปกติจะฟื้นฟูในเวลาไม่นาน
  2. การเกิดแผลไหม้หรือเปลี่ยนสี: ถ้าพารามิเตอร์ของเลเซอร์ไม่ถูกต้อง หรือผู้ให้การรักษาไม่มีความชำนาญ อาจทำให้เกิดแผลไหม้หรือการเปลี่ยนสีของผิว
  3. การเกิดการติดเชื้อ: แผลที่เกิดจากเลเซอร์มีโอกาสติดเชื้อถ้าไม่ดูแลอย่างถูกต้อง

ผลข้างเคียงเฉพาะประเภทของเลเซอร์

  1. เลเซอร์เอเบลทีฟ : มีโอกาสเกิดการหลุดหลิดของผิวหนัง การเปลี่ยนสีผิว และแผลเป็น
  2. เลเซอร์ไม่เอเบลทีฟ : โอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยมาก แต่ผลลัพธ์ในการรักษาอาจจะไม่เด่นชัดเท่าเลเซอร์เอเบลทีฟ

คำแนะนำ

  • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความเหมาะสม และรู้จักผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในกรณีของคุณ
  • ดูแลผิวหนังอย่างถูกต้องหลังการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และปัญหาอื่น ๆ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้ให้การรักษาเกี่ยวกับการดูแลหลังการรักษา อย่างเช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดด

การทำเลเซอร์ความงามถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้ปลอดภัยทั้งหมด การรู้จักผลข้างเคียงและการดูแลตัวเองในระหว่างหลังการรักษาเป็นสิ่งที่สำคัญ

diode laser กําจัดขน

diode laser กําจัดขน

Diode laser คือหนึ่งในเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ถูกใช้ในการกำจัดขนอย่างถาวร โดยมีความเสี่ยงน้อยเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ การทำ Diode laser มักจะใช้เลนส์ที่มีความยาวคลื่นที่ประมาณ 800-810 นาโนเมตร (nm) เพื่อลดขน หลักการทำงานของ Diode laser คือการใช้แสงเลเซอร์ของมันเพื่อเจาะลึกไปยังรากขน และทำลายโครงสร้างที่ทำให้ขนเจริญเติบโต

ข้อดี :

  1. ถาวรและประสิทธิภาพสูง : Diode laser สามารถลดขนถาวรและมีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ
  2. เหมาะสมสำหรับผิวหนังหลายประเภท : รวมถึงผิวหนังที่มีสีเข้ม
  3. ความเจ็บปวดน้อย : ใช้ระบบที่ลดความร้อนและความเจ็บปวดที่ผิวหนัง

ข้อเสีย :

  1. ค่าใช้จ่าย : การรักษาด้วย Diode laser มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง
  2. ต้องทำหลายครั้ง : ส่วนใหญ่ต้องการการรักษาหลายครั้งเพื่อลดขนถาวร
  3. ผลข้างเคียง : อาจมีอาการแดง บวม หรือร้อนในบริเวณที่ได้รับการรักษา

คำเตือน :

  • ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสภาพผิวและความเหมาะสมในการทำ Diode laser
  • ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลหลังการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงและส่งเสริมการฟื้นฟู
เลเซอร์ขน แบบไหนดี

เลเซอร์ขน แบบไหนดี

การเลือกเลเซอร์ในการกำจัดขนใช้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ สภาพผิวหนัง สีขน งบประมาณ และความต้องการหรือเป้าหมายของผู้รับการรักษา มีหลายประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ในการกำจัดขน คือ :

  1. Diode Laser : มีความลึกของเลนส์ที่ยาวถึง 800-810 nm ให้ผลลัพธ์ที่เด็ดขาดในการกำจัดขน แต่ควรระวังเรื่องการเปลี่ยนสีผิวหนัง

  2. Alexandrite Laser : ใช้ได้กับผิวหนังสีขาวถึงสีเหลือง และขนสีบลอนด์ถึงสีดำ

  3. Nd:YAG Laser : ใช้ได้กับผิวหนังทุกสี แต่อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผล

  4. Ruby Laser : ประสิทธิภาพสูงสำหรับผิวหนังสีขาวและขนสีดำ แต่มีความเสี่ยงในการเปลี่ยนสีผิวหนัง

ข้อควรรู้ก่อนทำ

  • ค่าใช้จ่าย : การกำจัดขนด้วยเลเซอร์จะมีค่าใช้จ่ายสูง
  • ระยะเวลา : อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลที่ต้องการ
  • ประเภทผิวหนังและสีขน : บางประเภทของเลเซอร์อาจไม่เหมาะสมกับผิวหนังหรือสีขนของคุณ
  • ผลข้างเคียง : อาจมีผลข้างเคียงเช่น แดง บวม หรือเปลี่ยนสีผิว
เลเซอร์ขนจิมิ

เลเซอร์ขนจิมิ

การใช้เลเซอร์ในการกำจัดขนจิมิ (Ingrown Hair) ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพ จิมิเป็นขนที่เจริญเติบโตผิดทิศทางแล้วเข้าไปในผิวหนัง ทำให้เกิดอาการอักเสบ แดง และอาจเกิดหนอง การกำจัดขนด้วยเลเซอร์สามารถทำให้ขนไม่เจริญเติบโตกลับเข้าไปในผิวหนังได้

ข้อดี :

  1. ลดการเจริญเติบโตของขนจิมิ : การใช้เลเซอร์สามารถลดการเจริญเติบโตของขนในทิศทางที่ผิดพลาด
  2. ประสิทธิภาพสูง : การใช้เลเซอร์มักจะให้ผลลัพธ์ที่ดี ถ้าเปรียบเทียบกับวิธีอื่น ๆ
  3. ลดอาการอักเสบ : โดยการกำจัดรากขน อาการอักเสบที่เกิดจากขนจิมิจะลดลง

ข้อเสีย :

  1. ค่าใช้จ่าย : การรักษาขนจิมิด้วยเลเซอร์อาจจะมีราคาสูง
  2. อาการไม่สบาย : บางคนอาจรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายในระหว่างและหลังการรักษา
  3. ผลข้างเคียง : อาจเกิดอาการแดง บวม หรือเปลี่ยนสีของผิวหนังในบริเวณที่ได้รับการรักษา

คำแนะนำ :

  • ควรรับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสภาพผิวและความเหมาะสมในการทำการกำจัดขนจิมิด้วยเลเซอร์
  • ดูแลผิวหนังอย่างถูกต้องหลังการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงและส่งเสริมการฟื้นฟู
เลเซอร์รอยสิว

เลเซอร์รอยสิว

การใช้เลเซอร์ในการรักษารอยสิวเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เลเซอร์สามารถใช้ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น มีหลายประเภทของเลเซอร์ที่สามารถใช้ในการรักษา ได้แก่ CO2 Laser, Fraxel, Nd:YAG และอื่น ๆ

แบบไหนเห็นผลเร็ว

  • CO2 Laser : เป็นวิธีที่เห็นผลเร็ว แต่อาจมีระยะเวลาในการฟื้นฟูที่ยาวขึ้น
  • Fraxel Laser : เห็นผลในระยะเวลาที่สั้นลง แต่อาจต้องทำหลายครั้ง

ข้อควรรู้ก่อนทำ

  1. ปรึกษาแพทย์ : ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการรักษาผิวหนังและโรคประจำตัว (ถ้ามี)
  2. ทดสอบผิว : บางครั้งอาจจำเป็นต้องทำการทดสอบผิวหนังเพื่อประเมินผลข้างเคียง
  3. ระบบหลังการรักษา : รู้วิธีการดูแลผิวหนังหลังรักษา และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

ข้อควรระวัง

  1. ผลข้างเคียง : อาจมีการแดง บวม หรือผิวหนังแห้ง หรือในบางกรณี อาจมีการเปลี่ยนสีของผิว
  2. ค่าใช้จ่าย : การรักษาด้วยเลเซอร์มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง
  3. ไม่เหมาะสำหรับทุกประเภทของผิวหนัง : ผู้ที่มีผิวหนังสีเข้มหรือมีโรคผิวหนังบางประเภท อาจไม่เหมาะสมในการรักษาด้วยเลเซอร์
เลเซอร์แผลเป็น

เลเซอร์แผลเป็น

การใช้เลเซอร์ในการรักษาแผลเป็นเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและค่อนข้างประสิทธิภาพ เทคนิคนี้สามารถใช้ได้กับหลายประเภทของแผลเป็น อาทิ แผลเป็นจากสิว แผลเป็นจากการผ่าตัด หรือแผลเป็นจากการเจ็บป่วย เลเซอร์สามารถปรับปรุงสภาพผิว ลดความไม่สม่ำเสมอของผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีหลายประเภทของเลเซอร์ที่สามารถใช้ในการรักษาแผลเป็น ได้แก่ :

  1. CO2 Laser (Carbon Dioxide Laser) : เหมาะสำหรับแผลเป็นขนาดใหญ่และลึก แต่การฟื้นฟูอาจใช้เวลานาน
  2. Er:YAG (Erbium Yttrium-Aluminum-Garnet) : มีการฟื้นฟูที่รวดเร็วกว่า CO2 Laser แต่อาจไม่เหมาะกับแผลเป็นที่ลึกมาก
  3. Fractional Laser : เหมาะสำหรับแผลเป็นจากสิว โดยจะทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  4. PDL (Pulsed Dye Laser) : ใช้สำหรับรักษาแผลเป็นที่มีสีแดง

ข้อควรรู้

  • ค่าใช้จ่าย : การรักษาแผลเป็นด้วยเลเซอร์อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง
  • ระยะเวลาการฟื้นฟู : อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการฟื้นฟูหลังการรักษา
  • ผลข้างเคียง : อาจมีผลข้างเคียงเช่น แดง บวม หรือการเปลี่ยนสีผิวหนัง

Q&A ถาม-ตอบ เลเซอร์

Q : การทำเลเซอร์มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

A : ผลข้างเคียงที่เป็นไปได้รวมถึง การแดง, บวม, รอยไหม้, และการปลอดสีของผิว หากทำโดยผู้ไม่เชี่ยวชาญอาจเกิดการทำลายผิวหนัง

Q : เลเซอร์หน้าใสช่วยอะไรบ้าง ?

A : เลเซอร์หน้าใสสามารถช่วยในการลดสิว, ปิดรูขุมขน, ลดริ้วรอย, และการให้ผิวหนังดูขาวใสและเรียบเนียนขึ้น

Q : เลเซอร์หน้ามีกี่แบบ ?

A : มีหลายแบบ ได้แก่ Fractional Laser, CO2 Laser, Erbium Laser, และ Pulse-Dye Laser แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่ต่างกัน

Q : ข้อดีของการเลเซอร์หน้าคืออะไร ?

A : ข้อดีคือ การฟื้นฟูผิวหนังให้ดูเด็กขึ้น, ลดริ้วรอย, ลดรอยแผลเป็น, และการให้ผิวหนังดูขาวใสขึ้น

Q : เลเซอร์กำจัดขน บริเวณไหนได้บ้าง ?

A : สามารถกำจัดขนในบริเวณหน้า, ขา, แขน, รักแร้, บิกินี่ไลน์, และหลายบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย

Q : เลเซอร์ขนช่วยอะไรบ้าง ?

A : ช่วยในการกำจัดขนอย่างถาวรหรือระยะยาว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน และลดปัญหาเรื่องขนขึ้นยุ้งคิ้ว

Q : เลเซอร์บราซิลเลี่ยนคืออะไร ?

A : เป็นการใช้เลเซอร์ในการกำจัดขนในบริเวณบิกินี่ไลน์ ได้รับชื่อตามสไตล์การตัดขนของผู้หญิงบราซิล

Q : เลเซอร์ขนบิกินี่มีผลข้างเคียงอะไร ?

A : อาจเกิดการแดง, บวม, หรือรอยไหม้ ถ้าไม่ดูแลอย่างถูกต้องหรือทำโดยผู้ไม่เชี่ยวชาญ

บทความ
โบท็อกซ์ ช่วยอะไร
โบท็อกซ์ ช่วยอะไร

โบท็อกซ์ ช่วยอะไร   โบท็อกซ์ หรือ Botulinum toxin คือสารที่ใช้ในการรักษาและปรับปรุงรูปลักษณ์ทางสุนทรียศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านการลดริ้วรอยบนใบหน้า สารนี้ทำงานโดยการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย

โบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี
โบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี

โบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี “โบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี?” คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยเมื่อเริ่มต้นพิจารณาการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า ด้วยความหลากหลายของยี่ห้อที่มีในตลาด เช่น Botox (USA), Dysport,

วิธีกำจัดขน
วิธีกำจัดขน

วิธีกำจัดขน ขนบนผิวหนังของมนุษย์มีบทบาทสำคัญในด้านการป้องกันตัวและความรู้สึก แต่บางครั้ง หลายคนต้องการ วิธีกำจัดขน จากบางส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเพื่อความงาม สุขอนามัย หรือความสะดวกสบาย การกำจัดขนสามารถทำได้หลายวิธี