HIFU คืออะไร? การยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด
หากคุณกำลังมองหาวิธียกกระชับใบหน้าที่ไม่ต้องผ่าตัด คำว่า “HIFU” น่าจะเป็นสิ่งที่คุณได้ยินบ่อยขึ้น แต่ HIFU คืออะไรกันแน่? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในวงการความงาม และเหมาะกับคุณไหม? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับ HIFU กัน
HIFU ย่อมาจาก High-Intensity Focused Ultrasound หรือคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีการโฟกัส เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โดยไม่ต้องเปิดแผลหรือใช้เข็ม
จุดเด่นของ HIFU:
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
- ยกกระชับได้หลายชั้นของผิวหนัง
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถทำงานได้ปกติ
- ปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงน้อย
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่ดูเกร็ง
HIFU ทำงานโดยส่งคลื่นเสียงความถี่สูงลงไปในชั้นผิวหนังที่ลึก (SMAS Layer) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์จะทำการยกใน Face Lift แต่ไม่ต้องเปิดแผล คลื่นเสียงจะสร้างความร้อนในจุดเล็กๆ ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
HIFU ยกกระชับได้จริงไหม?
คำตอบคือ ได้จริง! แต่ต้องเข้าใจว่า HIFU ทำงานยังไงและให้ผลลัพธ์แบบไหน
หลักการทำงานของ HIFU:
- การส่งคลื่นเสียงเจาะจง HIFU ส่งคลื่นเสียงไปยังจุดเป้าหมายในชั้นผิวหนังที่ลึก โดยไม่ทำลายผิวหน้าด้านนอก คล้ายกับการใช้แว่นขยายโฟกัสแสงแดดให้เป็นจุด
- การสร้างความร้อน เมื่อคลื่นเสียงไปถึงจุดเป้าหมาย ทำให้โปรตีนในเนื้อเยื่อแข็งตัว (Coagulation) และหดตัว
- การกระตุ้นคอลลาเจน ความร้อนนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและเอลาสตินใหม่ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผิวตึงและยืดหยุ่น
ระยะเวลาการเห็นผล:
ทันทีหลังทำ เห็นการยกกระชับเล็กน้อยประมาณ 20-30% จากการหดตัวของเนื้อเยื่อ
1-3 เดือนแรก เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพราะคอลลาเจนใหม่เริ่มสร้างขึ้น
3-6 เดือน ผลลัพธ์ดีที่สุด คอลลาเจนใหม่สร้างเสร็จสมบูรณ์
ข้อจำกัดของ HIFU:
- ไม่เหมาะกับผิวหย่อนมาก หากผิวหย่อนคล้อยมากเกินไป HIFU อาจให้ผลไม่เพียงพอ อาจต้องใช้ร่วมกับวิธีอื่นหรือเลือกวิธีอื่นแทน
- ต้องมีคอลลาเจนพื้นฐาน คนที่มีอายุมากหรือผิวเสื่อมมาก อาจไม่สามารถสร้างคอลลาเจนใหม่ได้มากพอ
- ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และการตอบสนองของร่างกาย
ชั้นผิวหนังที่ HiFU ทำงาน:
SMAS Layer : ชั้นที่ลึกที่สุดที่ HIFU ไปถึง ให้ผลการยกกระชับที่คงทนนานที่สุด
Deep Dermis : ชั้นที่ช่วยในการกระชับและปรับปรุงเนื้อผิว
Superficial Layer : ชั้นผิวหน้าที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
และบริเวณที่สามารถทำได้ ได้แก่ แก้มและร่องแก้ม – ยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย, กรามและคาง – ยกกระชับกราม ให้กรอบหน้าคมชัด, คอ – กระชับผิวคอที่เริ่มหย่อน
ข้อควรรู้ก่อนทำ HIFU
ก่อนตัดสินใจทำ HIFU มีข้อมูลสำคัญที่คุณควรทราบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยสูงสุด
การเตรียมตัวก่อนทำ HIFU:
ประเมินสภาพผิว : แพทย์จะประเมินว่าผิวของคุณเหมาะสมกับการทำ HIFU หรือไม่ และควรทำในบริเวณไหนบ้าง
ข้อมูลสุขภาพ : แจ้งประวัติโรค การแพ้ยา และการรักษาที่เคยทำมา โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์
หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด : เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาที่อาจส่งผลต่อการฟื้นฟู
ดูแลผิวให้ดี : ใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการทำผิวอื่นๆ ก่อนทำ HIFU 1-2 สัปดาห์
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ HIFU:
- ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบทันทีทันใด แต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา
- มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าเกร็งหรือแข็ง ยังคงสีหน้าธรรมชาติ
- การยกกระชับแบบอ่อนโยน เหมาะกับคนที่ต้องการการปรับปรุงแบบค่อยเป็นค่อยไป
การดูแลหลังทำ HIFU:
ใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอ : เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของผิว
หลีกเลี่ยงความร้อนจัด : เช่น ซาวน่า สตีม หรือแสงแดดจัด ในสัปดาห์แรก
บำรุงผิวอย่างอ่อนโยน : หลีกเลี่ยงการใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ที่แรง
ดื่มน้ำเพียงพอ : เพื่อช่วยในการสร้างคอลลาเจน
HIFU อยู่ได้นานแค่ไหน?
HIFU มีความคงทนที่แตกต่างจากฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ เพราะทำงานโดยการกระตุ้นกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย
ระยะเวลาความคงทนของ HIFU:
โดยเฉลี่ย 12-18 เดือน สำหรับผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความคงทน:
- อายุ คนที่มีอายุน้อยกว่ามักได้ผลที่คงทนกว่า เพราะสามารถสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า
- สภาพผิว ผิวที่มีสภาพดีและไม่เสื่อมมาก จะได้ผลที่คงทนกว่า
- การดูแลหลังทำ การใช้ครีมกันแดดและดูแลผิวอย่างถูกต้องช่วยให้ผลลัพธ์คงทนนานขึ้น
- พันธุกรรม การสร้างและการสลายคอลลาเจนแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
- ไลฟ์สไตล์ การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์มาก, หรือการนอนไม่เพียงพอ อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่คงทน
ควรทำทุก 12-18 เดือน สำหรับการรักษาผลลัพธ์ หรืออาจนานกว่านั้นหากผลลัพธ์ยังดีอยู่ และการประเมินก่อนทำซ้ำ แพทย์จะประเมินผลลัพธ์และความจำเป็นก่อนแนะนำการทำซ้ำ
วิธีทำให้ผลลัพธ์คงทนนานขึ้น:
- ใช้ครีมกันแดดทุกวัน SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันการทำลายคอลลาเจน
- ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ใช้ครีมบำรุงที่มี Retinol หรือ Vitamin C
- มีการใช้ชีวิตที่ดี นอนหลับเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ หรือการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- พิจารณาการรักษาเสริม เช่น การใช้ฟิลเลอร์เพิ่มเติมในจุดที่จำเป็น หรือการทำ Skin Booster
ข้อดีของความคงทนของ HIFU:
- ผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหันเมื่อผลหมด
- การชะลอการแก่ชรา HIFU ไม่เพียงแค่แก้ไขปัญหาปัจจุบัน แต่ยังช่วยชะลอการเสื่อมในอนาคต
- ความคุ้มค่า เมื่อคิดต้นทุนต่อเดือน HIFU คุ้มค่ากว่าการทำหัตถการอื่นๆ บ่อยครั้ง
Q&A
Q : HIFU เจ็บมากไหม? ต้องใช้ยาชาไหม?
A : ความเจ็บอยู่ในระดับทนได้ คล้ายถูกจิ้มๆ หรือแมลงกัด บริเวณที่มีกระดูกอาจรู้สึกมากขึ้น ส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้ยาชา แต่ถ้ากลัวเจ็บสามารถทาครีมชาได้ ใช้เวลา 30–90 นาที
Q : หลังทำ HIFU แล้วกลับไปทำงานได้ไหม?
A : ได้เลย เพราะไม่มีแผล อาจบวมแดงเล็กน้อยหายภายใน 2–4 ชม. แต่งหน้าได้หลัง 2–3 ชม. ควรหลีกเลี่ยงออกกำลังกายหนักและซาวน่าในวันแรก
Q : HIFU ใช้ได้กับทุกสีผิวไหม?
A : ปลอดภัยกับทุกสีผิว รวมถึงผิวคล้ำ เพราะใช้คลื่นเสียง ไม่กระทบเม็ดสี ควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี
Q : ต่างจาก Face Lift อย่างไร?
A : HIFU: ไม่ผ่าตัด ไม่มีแผล อยู่ได้ 12–18 เดือน เหมาะกับปัญหาเล็ก–กลาง
Face Lift: ผ่าตัด มีแผล พักฟื้น 2–4 สัปดาห์ อยู่ได้ 5–10 ปี เหมาะกับปัญหาหนักและต้องการผลลัพธ์ชัดเจน
สรุป
HIFU เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่เริ่มมีสัญญาณของการหย่อนคล้อยแต่ยังไม่รุนแรง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและคงทนได้ 12-18 เดือน ด้วยความปลอดภัยสูงและไม่ต้องพักฟื้นนาน
หากคุณสนใจ HIFU และต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ Class Clinic พร้อมให้บริการด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและเครื่อง HIFU ที่ทันสมัย เรามี 20 สาขาทั่วประเทศ พร้อมให้คำปรึกษาและประเมินความเหมาะสมอย่างละเอียด มาปรึกษาและเริ่มต้นการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดกับเราที่ Class Clinic คลินิกความงาม
เจาะลึก Class Clinic คลินิกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านความงาม ในยุคที่ความงามกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของหลายๆ คน
Class Clinic สวยครบ จบที่เดียว มาตรฐานที่ลูกค้าบอกต่อ ในปัจจุบัน
Class Clinic “ตัวจริงเรื่องความงามที่หลายคนเลือก” ในยุคที่การดูแลความงามเป็นสิ่งสำคัญและมีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนทุกเพศทุกวัย Class Clinic ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในคลินิกเสริมความงามชั้นนำที่ลูกค้าหลายคนเลือกและไว้วางใจมากที่สุด